. ชาวบ้านใช้เครื่องขยายเสียง เปิดล่อแมงกระชอน ได้คืนละร้อยโล -
ข่าวสังคม - โซเชียล » ชาวบ้านใช้เครื่องขยายเสียง เปิดล่อแมงกระชอน ได้คืนละร้อยโล

ชาวบ้านใช้เครื่องขยายเสียง เปิดล่อแมงกระชอน ได้คืนละร้อยโล

6 พฤษภาคม 2022
213   0

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ถนนข้างทุ่งนาท้ายหมู่บ้านโคกทม ต.โคกยาง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พบนายพิทักษ์ งามแฉล้ม อายุ 40 ปี ชาวบ้านตะหมาดปวง หมู่ 5 ต.บ้านไทร อ.ปราทาส จ.สุรินทร์ ได้พาพ่อออกหาแมงกระชอนในช่วงกลางคืน เพื่อนำไปขายสร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว รวมถึงนำไปประกอบเป็นอาหารกินกันในครอบครัว

โดยการนำเครื่องขยายเสียงต่อเข้ากับลำโพงหรือฮอน ก่อนนำเสียงแมงกระชอนที่โหลดจากยูทูบ อินเตอร์เน็ต มาเสียบเปิดต่อใส่เครื่องเสียง โดยใช้ไฟจากแบตเตอรี่รถยนต์จำนวน 2 ลูก เปิดหลอกล่อให้แมงกระชอนบินมาตามเสียงหาลำโพง ที่ตั้งอยู่ด้านบนกระบะที่ใช้ผสมปูนที่ใส่น้ำไว้ครึ่งกระบะ พร้อมเปิดไฟสีล่อและนำถุงพลาสติกมากั้นไว้เพื่อให้แมงกระชอนที่บินมาหาไฟชนเข้ากับถุงพลาสติกและตกลงในกระบะที่อยู่ด้านล่าง

ซึ่งตลอดเวลาที่มีการเปิดเสียงล่อแมงกระชอนนั้น พบว่ามีแมงกระชอนจำนวนมากได้บินมาจากทั่วทุกทิศ มุ่งหน้ามาที่ลำโพงฮอนก่อนจะบินเข้าหาหลอดไฟสีและตกลงในกระบะที่รองไว้ ใช้เวลาไม่ถึงชั่วโมง ก็จะได้แมงกระชอนเกือบครึ่งกระบะ

จากนั้นก็นำตะกร้าพลาสติกมาตักใส่ถังแล้วไปเก็บไว้ในถัง 200 ลิตร ที่เตรียมไว้บนรถกระบะ คืนหนึ่งสามารถจับแมงกระชอนได้ 50-100 กิโลกรัม มีแม่ค้ามารับซื้อในในหมู่บ้าน ราคากิโลกรัมละ 40 บาท สามารถสร้างรายได้ 2,000-3,500 บาทต่อคืน ถือว่าเป็นอาชีพหลักในการสร้างรายได้ในช่วงนี้ได้เป็นอย่างดี นอกเหนือจากการทำไร่ทำนา

นายพิทักษ์บอกว่า ตนใช้เครื่องขยายเสียงกับหลอดไฟล่อเพื่อให้แมงกระชอนตกลงในอ่างที่ใส่น้ำไว้ เป็นวิธีแบบใหม่ เมื่อก่อนตนทำมาแล้วแล้วหลายวิธี ทั้งย่ำในโคลนหญ้าจับ ใช้มอเตอร์ไซค์เบิ้ลเครื่องล่อ ต่อมาก็เปิดเสียงล่อแล้วก็ใช้จับมือเป็นตัวๆ ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นวิธีล่าสุด คือนำกระบะที่ใช้ผสมปูนมาใส่น้ำรองไว้ที่ใต้หลอดไฟ วิธีนี้ไม่ต้องเสียเวลาจับเลย คืนหนึ่งหากไม่มีฝนก็ได้ประมาณ 50-60 กิโลกรัม บางคืนก็เกือบ 100 กิโลกรัม ตรงนี้แล้วแต่สภาพอากาศ เพราะแมงกระชอนจะออกตามสภาพอากาศ ถ้ามีลมก็ไม่ออก แมงกระชอนจะออกหลังช่วงฤดูเก็บเกี่ยวเป็นต้นมา พอดินเริ่มแห้งก็จะเริ่มมีแล้ว ส่วนตนเริ่มตั้งเครื่องเสียงล่อมาตั้งแต่หลังปีใหม่แล้ว

ซึ่งพอเข้าหน้าร้อนแล้วชาวบ้านเกือบทั้งหมู่บ้านก็ออกมาหาจองทำเลตั้งเครื่องล่อแมงกระชอนกันแล้ว แต่ถ้าเป็นช่วงนี้จะมีแต่ตัวไข่ รสชาติมันเต็มตัว นำไปทำอะไรก็อร่อย หากผ่านพ้นช่วงนี้ไป เข้าสู่ฤดูฝนเต็มชาวบ้านก็จะไม่หากันแล้ว เพราะรสชาติจะไม่อร่อย ถือว่าตอนนี้เป็นธุรกิจหมู่บ้านไปแล้ว เป็นรายได้หลักเลยก็ว่าได้นอกเหนือจากการทำนาไร่ ตอนขายก็จะมีแม่ค้าเข้ามารับในหมู่บ้าน

โดยเริ่มแรกต้นฤดูจะรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 120 บาท พอเริ่มจับแมงกระชอนได้มากขึ้น ตอนนี้รับซื้ออยู่ที่กิโลกรัมละ 40 บาท บ้างเจ้ารับซื้อ 30 บาทก็มี สำหรับปีนี้ตนสามารถจับได้คืนหนึ่งสูงสุดประมาณ 120 กิโลกรัม ส่วนเมนูที่เขานิยมนำไปทำกินก็จะเป็นจำพวก คั่ว ลาบ ยำ และตำน้ำพริก ถ้าจะกินแมงกระชอนก็ต้องเป็นช่วงนี้เลยรสชาติอร่อย