เปิดเคสคนไข้หญิง เจอปัญหานอนไม่หลับ อึดอัดไม่สบายตัว หาหมอจนเจอต้นตอสะwรึง มีแมลงสาบในช่องคລอด
เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2566 เว็บไซต์นิวยอร์กโพสต์ เผยเรื่องราวจาก ดร.มาร์โก คาลิกซ์ สูตินรีแพทย์ในเมืองเตกูซิกัลปา ของประเทศฮอนดูรัส โดยปกติแล้วคุณหมอรายนี้มักจะโพสต์แชร์ประสบการณ์เจอเคสคนไข้แปลก ๆ ที่น่าตกตะลึงผ่านทาง TikTok ของเขา ซึ่งได้รับความนิยมจนมีผู้เข้าไปติดตามเกือบ 4 แสน แต่เคสล่าสุดนี้เรียกได้ว่าเหนือเกินกว่าที่จะจินตนาการได้ และไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นจริง
ดร.คาลิกซ์ เผยว่า คนไข้รายนี้เป็นผู้หญิง (ไม่เปิดเผยชื่อ) อาศัยในเขตชนบทแห่งหนึ่งของประเทศ เธอเข้ามารับการรักษาที่คลินิกของเขาด้วยปัญหา “นอนไม่หลับขั้นรุนแรง” รู้สึกอึดอัดไม่สบายตัว มีอาการกระสับกระส่าย และเหงื่อออก เธอรู้สึกว่ามี “บางอย่างผิดปกติ” อยู่ภายในอวัยวะเwศของเธอ
ภายหลังจากการตรวจภายใน ดร.คาลิกซ์และทีมผู้ช่วย ต่างพากันผงะไปตามกัน เมื่อพบสาเหตุที่แท้จริง สิ่งที่อยู่ภายในช่องคລอดของคนไข้หญิงรายนี้คือแมลง และไม่ใช่แมลงทั่วไป แต่มันคือ แมลงสาบ ทางคุณหมอจึงจำเป็นต้องช่วยดึงตัวแมลงสาบ ที่อยู่ในสภาพຕายเป็นซากออกมาจากช่องคລอดของคนไข้
ดร.คาลิกซ์ กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกสำหรับเขาตั้งแต่ทำงานเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้มา ก่อนหน้านี้เขาเคยเจออะไรหลายสิ่งในอวัยวะสืบพันธุ์ผู้หญิงมาตลอด ตั้งแต่ถุงยางอนามัย ไปจนถึงเซ็กส์ทอย แต่ครั้งนี้มันเกินกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้มาก
รายงานอ้างอิงตามข้อมูลจากเว็บไซต์ Orkin เกี่ยวกับการกำจัดแมลงและสัตว์รบกวน ระบุว่า “แมลงสาบมักจะชอบที่มืดและชื้น เพื่อซ่อนตัวและขยายพันธุ์ และมันยังสามารถบีบตัวให้ลีบแบน เพื่อเข้าไปยังพื้นที่แคบ ๆ ได้”
อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีของคนไข้หญิงรายนี้ ไม่สามารถทราบได้แน่ชัดว่า แมลงสาบตัวนี้เข้าไปพบจุดจบด้านในนั้นได้อย่างไร รวมทั้งไม่มีการเปิดเผยว่า เธอได้รับบาดเจ็บใด ๆ ที่จำเป็นต้องรักษาเพิ่มเติม ภายหลังจากแพทย์ช่วยนำแมลงสาบตัวนี้ออกมาได้สำเร็จ
ทั้งนี้ทั้งนั้น ดร.คาลิกซ์ เผยว่า นับว่ายังเป็นโชคดีของคนไข้หญิงที่แมลงสาบตัวนี้ยังอยู่ในช่วงที่สามารถคีบออกมาได้ทั้งตัว เพราะหากปล่อยไว้นานกว่านี้ มันอาจจะเกิดการติดเชื้อ เนื้อเยื่อเสียหาย และภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่เป็นอันຕราຍ ด้วยเหตุนี้ จึงขอเตือนให้คนอื่น ๆ สังเกตอาการหากพบความผิดปกติที่อวัยะเwศ เช่น มีของเหลวไหลออกมาเป็นกลิ่นเหม็น เลือดออก บวม หรือมีผื่นคัน ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
ขอบคุณข้อมูลจาก New York Post / kapook.com
