. ตรวจสอบ ประกันรายได้ข้าว65/66 -
ข่าวสังคม - โซเชียล » ตรวจสอบ ประกันรายได้ข้าว65/66

ตรวจสอบ ประกันรายได้ข้าว65/66

26 ธันวาคม 2022
112   0

ชาวนาตรวจสอบ ประกันรายได้ข้าว65/66 งวดที่ 11 ธ.ก.ส.เคาะจ่ายส่วนต่าง “ประกันราคาข้าว” ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 15,392.30 บาท เข้าบัญชีวันไหน

“กรุงเทพธุรกิจออนไลน์” รายงานต่อเนื่องกรณีโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 หรือ ประกันรายได้ข้าว65/66 จ่ายส่วนต่าง “ประกันราคาข้าว” ซึ่ง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ได้เริ่มทยอยโอนเงินให้เกษตรกรอย่างต่อเนื่อง มาจนถึงตั้งแต่งวดที่ 1-10 เป็นเงินกว่า 218.95 ล้านบาท และมีผู้ได้รับประโยชน์จำนวน 70,754 ครัวเรือน

ล่าสุด กรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้มีมติ ในคราวประชุม ครั้งที่ 26/2565 เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2565 เห็นชอบการกำหนดราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่าง ประกันรายได้ข้าว65/66 ให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 (งวดที่ 11) ดังนี้

ข้อ 1. ราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงประจำวันที่ 23 ธันวาคม 2565 เพื่อใช้ในการชดเชยส่วนต่าง ประกันรายได้ข้าว 65/66 ให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2565/66 (งวดที่ 11) ให้แก่เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปี 2565/66 ที่ระบุวันที่ คาดว่าจะเก็บเกี่ยวก่อนวันที่ 17 – 23 ธันวาคม 2565 สำหรับข้าวเปลือกชนิดต่าง ๆ ณ ความชื้นไม่เกิน 15% ดังนี้

ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 13,900.55 บาท

ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 13,392.57 บาท

ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 10,889.02 บาท

ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 9,638.57 บาท

ข้าวเปลือกเหนียว ตันละ 12,395.70 บาท

ข้อ 2. การชดเชยส่วนต่างระหว่างราคา ประกันรายได้เกษตรกร กับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิง มีอัตราส่วนต่างที่ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรใช้ในการจ่ายให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าว สำหรับการจ่ายเงิน งวดที่ 11 ดังนี้

ข้าวเปลือกหอมมะลิ ตันละ 1,099.45 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 15,392.30 บาท

ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ตันละ 607.43 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 9,718.88 บาท

ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ตันละ 110.98 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 2,774.50 บาท

ข้าวเปลือกเจ้า ตันละ 361.43 บาท ได้รับชดเชยสูงสุดครัวเรือนละ 10,842.90 บาท

ข้าวเปลือกเหนียว ราคาสูงกว่าเป้าหมาย

โดย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง ภายใน 3 วันทำการ หรือภายในวันที่ 28 ธ.ค. 2565 และยืนยันว่าไม่มีการหักหนี้แต่อย่างใด

ตรวจสอบสถานะความเป็นเกษตรกรและสมาชิกครัวเรือน ดังนี้

เฉพาะที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรเท่านั้น ( ซึ่งการขึ้นทะเบียนเกษตรกรมีหลายหน่วยงานรับผิดชอบ ขึ้นอยู่กับบทบาทและภารกิจของแต่ละหน่วยงาน ) ที่เว็บไซต์ (คลิกที่นี่)

ตรวจสอบสถานะขั้นตอน – ช่องทางตรวจสอบเงิน ดังนี้

เข้าไปที่เว็บไซต์ (คลิกที่นี่) ตลอด 24 ชั่วโมง

กรอกเลขที่บัตรประชาชนจำนวน 13 หลัก

โดยระบบจะแจ้งรายละเอียดของบัญชี จํานวนเงิน และโครงการของเงินช่วยเหลือที่ได้รับ

ตรวจสอบผลการโอนเงินบนแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ดังนี้

หลังจากตรวจสอบใน เว็บไซต์ เรียบร้อยแล้ว หากมีข้อมูลขึ้นว่าได้รับเงินโอน

สามารถเข้าไปตรวจสอบยอดเงินได้ด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile จาก ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร หรือ ธ.ก.ส. ซึ่งดูแลเกษตรกรผู้ปลูกข้าวครอบคลุมกว่า 4.68 ล้านคน กำหนดระยะเวลาการขึ้นทะเบียนสำหรับข้าวนาปี ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.-31 ต.ค.65 แต่ภาคใต้ ตั้งแต่วันที่ 16 มิ.ย.65 -28 ก.พ.66 โดยจะมีการกำหนดราคาตลาดเพื่อกำหนดราคาทุก 7 วัน และจะจ่ายเงินส่วนต่าง(ถ้ามี) จำนวน 33 งวดงวดแรกเริ่มต้น 14 ต.ค.65 งวดสุดท้ายวันที่ 26 พ.ค.66

เช็กผลการโอนเงินได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยหากเงินถูกโอนเข้าบัญชีแล้วสามารถรับทราบได้ทันที

ช่องทางดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile ได้บนระบบปฏิบัติการ iOS ผ่าน Appstore และระบบปฏิบัติการ Android ผ่าน Playstore